การดื่มน้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตและการอยู่รอดของมนุษย์ตั้งแต่โบราณ จากการดื่มน้ำตามแหล่งน้ำตามธรรมชาติก็เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคม การดื่มน้ำยังสำคัญเช่นเดิม แต่รูปแบบของแหล่งน้ำเปลี่ยนไป เมื่อประชากรมากขึ้น การกระจายตัวมากขึ้น และความรู้ทางด้านสุขภาพที่มีมากขึ้น แหล่งน้ำตามธรรมชาติถูกนำมาผลิตเป็นน้ำดื่มให้สะดวกยิ่งขึ้น และเพื่อความปลอดภัยต่อประชาชนผู้บริโภค มาตรฐานการทำน้ำดื่มจึงถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้มีคุณภาพที่ยอมรับได้ อย่างในประเทศไทย มาตรฐานน้ำดื่มได้ถูกกำหนดไว้ในกฎหมาย เช่น ประกาศจากกระทรวงอุตสาหกรรม ประกาศจากกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การทำน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน ต้องผ่านการตรวจสอบทั้งทางกายภาพ ทางเคมี และทางชีวภาพ ตัวอย่างลักษณะทางกายภาพ ของน้ำดื่ม เช่น สี กลิ่น รส ความขุ่น ที่ควรใสไม่มีสี กลิ่น รสใด ๆ ตัวอย่างลักษณะทางเคมี เช่น เคมีทั่วไป โลหะหนักทั่วไป และโลหะหนักที่เป็นพิษต่อร่างกาย ที่ควรจะน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ตัวอย่างลักษระทางชีวภาพ เช่น เชื้อโรคต่าง ๆ ที่ไม่ควรจะพบเลยหรือ บางชนิดอาจพบได้หากแต่ต้องน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
การทำน้ำดื่มให้ด้วยวิธี RO (Reverse Osmosis)
การจะทำน้ำดื่มที่ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ที่กำหนดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันการทำให้สะอาดได้มาตรฐาน สามารถเป็นไปได้ ในบทความนี้จะเล่าถึงวิธีการทำน้ำดื่มด้วยวิธี RO (Reverse Osmosis) เป็นวิธีการทำน้ำให้บริสุทธิ์ด้วยการแยกเอาไออน โมเลกุลของสารเคมีที่ไม่ต้องการ และสิ่งสกปรกในน้ำออก โดยการกรองน้ำผ่านเยื่อกรองที่มีความละเอียดสูง เรียกว่า Membrane โดยใช้ความดันช่วยดันน้ำผ่านเยื่อกรอง สิ่งสกปรกจะถูกดักไว้ด้วยเยื่อกรองและน้ำที่ผ่านออกมาจึงเป็นน้ำสะอาดดื่มได้ เทคโนโลยีนี้เคยถูกใช้เพื่อทำน้ำจืดจากน้ำทะเลโดยไม่ต้องใช้ความร้อน ด้วยจุดเด่นที่ไม่ต้องใช้พลังงานความร้อน เพื่อระเหยน้ำในการบวนการทำน้ำกลั่นแบบเดิม
เนื่องจากเยื่อกรอง Membrane มีความละเอียดมากจึงอุดตันหรือเสียหายได้ง่าย น้ำที่จะผ่านเยื่อกรองชนิดนี้จึงจำเป็นต้องผ่านการกรองเบื้องต้นก่อน โดยทั่วไปการทำน้ำดื่ม RO จะประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่
1.การกรองด้วยไส้กรองใยสังเคราะห์ ความละเอียดที่ 5 ไมครอน ใช้เพื่อกรองสิ่งสกปรกที่ไม่ละลายน้ำ เช่น ฝุ่น ดิน ทราย หินปูน สนิม ฯลฯ
2.การกรองด้วยไส้กรองคาร์บอน เพื่อกำจัดกลิ่นในน้ำ เช่น กลิ่นคลอรีน และสารอินทรีย์อื่น ๆ เช่น แก๊สไข่เน่า ฯลฯ
3.การกรองด้วยไส้กรอง Membrane ที่มีความละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน ที่สามารถกรองสารละลายโลหะหนักและเชื่อแบคทีเรียได้
4.การกรองด้วยไส้กรองคาร์บอน เพื่อปรับปรุงกลิ่นและรสชาติของน้ำ
จุดเด่นของเทคโนโลยีการการทำน้ำดื่ม RO จึงเป็นคุณภาพของน้ำดื่มที่สะอาด โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากอย่างกระบวนการทำน้ำกลั่น อย่างไรก็ตามการจะกรองผ่านเยื้อกรอง Membrane ที่มีความละเอียดสูงจำเป็นต้องใช้แรงดันที่เหมาะสม ซึ่งด้วยแรงดันที่มากเช่นนี้อาจทำให้วิธีนี้หากนำไปในครัวเรือนจะยังมีต้นทุนที่สูงกว่า เพราะข้อจำกัดเรื่องแรงดันที่น้อยกว่า การทำน้ำดื่ม RO ในระดับโรงงานจึงเป็นทางเลือกที่ยังคุ้มค่ากว่ามากสำหรับการทำเป็นธุรกิจน้ำดื่ม